สำนักข่าวเอพีเรียกร้องให้มีการเปิดการสอบสวนอิสระต่อกรณีที่อิสราเอลโจมตีอาคารสำนักงานสื่อต่างชาติในเขตกาซา ขณะที่ปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮามาสของอิสราเอลเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว
วันนี้ (17 พ.ค.2564) อิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศระลอกใหม่ในหลายจุดของกาซา ซิตี ตั้งแต่ทางตอนเหนือไปจนถึงตอนใต้ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยสื่อหลายสำนักในพื้นที่ ระบุว่า ปฏิบัติการนี้รุนแรงและยาวนานถึง 10 นาที ซึ่งในเบื้องต้น ยังไม่ทราบตัวเลขผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่กองทัพอิสราเอล ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่บ้านพักของผู้บัญชาการกลุ่มฮามาส 9 คน ทั่วเขตกาซา ซึ่งสื่อท้องถิ่น รายงานว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ส่งผลให้ถนนและระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหาย
อิสราเอลเดินหน้าโจมตีเขตกาซาติดต่อกันเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 192 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 58 คน ขณะที่ผู้อำนวยการองค์การเซฟ เดอะ ชิลเดรน ประจำปาเลสไตน์ ระบุว่า มีเด็กชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บเฉลี่ยชั่วโมงละ 3 คน
“เอพี” ร้องเปิดสอบอิสราเอลโจมตีอาคารสื่อในกาซา
ขณะที่บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าวเอพีเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนอิสระต่อกรณีที่อิสราเอลโจมตีอาคารสำนักงานของสื่อต่างชาติหลายสำนักในเขตกาซา
นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า สาธารณชนควรที่จะได้ทราบข้อเท็จจริง เนื่องจากรัฐบาลอิสราเอลไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานชัดเจนที่สนับสนุนเหตุโจมตีครั้งนี้ พร้อมทั้งระบุว่า สำนักงานของเอพีอยู่ในอาคารนี้มา 15 ปี แต่ไม่เคยได้รับแจ้ง หรือมีข้อบ่งชี้ว่ากลุ่มฮามาสอาจใช้อาคารนี้ และย้ำว่าสำนักข่าวเอพีไม่ได้เลือกข้างในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ขณะที่องค์กรสื่อไร้พรมแดนส่งหนังสือถึงหัวหน้าอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ เรียกร้องให้มีการใส่ประเด็นการโจมตีอาคารที่ตั้งของสื่อต่างชาติเข้าไปในสำนวนคดีอาชญากรรมสงครามที่เปิดการสอบสวนไปแล้ว เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ในกรณีปฏิบัติการของอิสราเอลต่อปาเลสไตน์
โดยระบุว่าอิสราเอลตั้งใจโจมตีองค์กรสื่อและทำลายอุปกรณ์ของสื่อ ซึ่งมีผลในการลด หรือทำลายขีดความสามารถของสื่อในการรายงานข่าวต่อสาธารณชน หลังจากในช่วง 6 วันที่ผ่านมา มีสำนักงานสื่อท้องถิ่นและต่างชาติถูกทำลายไปแล้ว 23 แห่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“อัลจาซีรา-เอพี” ประณามอิสราเอลทิ้งระเบิดสำนักงานสื่อในกาซา
ไทยออกแถลงการณ์ห่วงความรุนแรง “อิสราเอล-ปาเลสไตน์”
“อิสราเอล-ปาเลสไตน์” ยังคงปะทะดุเดือด
