อนามัยโพล ระบุพ่อแม่ 95.6 % กังวล “เปิดเทอม” ลูกหลานเสี่ยงโควิด

“อนามัยโพล” เผยผลสำรวจเปิดเทอม 14 มิ.ย.นี้ ทำพ่อแม่กังวล COVID-19 สูงถึงร้อยละ 95.6 ชี้พื้นที่สีแดงเข้มจัดการเรียนการสอน 4 แบบพร้อมขอความร่วมมือครู นักเรียน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด

วันนี้ (27 พ.ค.2564) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากผลการสำรวจอนามัยโพล ของกรมอนามัย สอบถามความคิดเห็น ในประเด็น ความรู้สึกกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 และการเปิดเรียนเดือนมิ.ย.2564 ระหว่างวันที่ 18-24 พ.ค.นี้

พบว่า ผู้ปกครองมีความกังวลต่อสถานการณ์ COVID-19 สูงถึงร้อยละ 95.6 ซึ่งประเด็นที่มีความกังวลสูงมากที่สุดคือ บุตรหลานอาจติดเชื้อโควิดจากเพื่อนร่วมชั้น ครู บุคลากร ร้อยละ 41.3

นอกจากนี้เรื่องที่อยากให้สถานศึกษา เตรียมความพร้อมมากที่สุดคือ การดูแลสุขอนามัยของครูและนักเรียน ร้อยละ 33.1 การจัดสภาพแวดล้อม ในสถานศึกษา ร้อยละ 22.8 และโรงเรียนต้องผ่านเกณฑ์ประเมินความพร้อมด้านสาธารณสุข ร้อยละ 15.3

ทั้งนี้ ตามมาตรการผ่อนปรนของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนดให้โรงเรียนทั้งภาครัฐและเอกชนเปิดเรียนได้ตามปกติตั้งแต่ 14 มิ.ย.นี้ โดยในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี ให้ใช้หลักการเรียนการสอนแบบ 4 แบบ คือ ออนแอร์ ออนดีมาน ออนไลน์ และออนแฮนด์

อ่านข่าวเพิ่ม ศธ.เคาะเลื่อนเปิดเทอมจาก 17 พ.ค.เป็น 1 มิ.ย.นี้

เปิดก่อน 14 มิ.ย.พท.สีแดงต้องประเมินครบ 44 ข้อ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า แต่หากสถานศึกษาต้องการเปิดการเรียน การสอนก่อนวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ต้องดำเนินการตามเกณฑ์ ศบค. และขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อเรียนออนแอร์ ออนไลน์ ได้ในจังหวัดสีแดงเข้ม และเรียน On Site ได้ในจังหวัดสีแดง สีส้ม

โรงเรียนต้องผ่านการประเมินความพร้อม Thai Stop COVID Plus ครบทั้ง 44 ข้อ หลังจากประเมินแล้วให้โรงเรียนขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด เพื่อเปิดเรียนแบบ On Site รวมถึงต้องปฏิบัติตามมาตรการของ สธ.อย่างเคร่งครัด

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การปฏิบัติตนของครูและนักเรียน ยังคงเน้นย้ำตามมาตรการยกระดับความปลอดภัย ทั้งมาตรการหลักและมาตรการเสริม เช่น เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 100 % ลดการแออัด ลดเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มคนจำนวนมาก ทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวสัมผัสร่วมจับ เช่น ประตู ลูกบิดประตู ราวบันได

6 มาตรการเสริมส่วนบุคคลลดเสี่ยง

ส่วน 6 มาตรการเสริม ดูแลตนเอง มีวินัย ใช้ช้อนส่วนตัว กินแยก ไม่กินรวมกัน กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนไทยชนะ สำรวจตรวจสอบคนแปลกหน้ามาจากพื้นเสี่ยง และกักกันตัวเอง รวมถึงมาตรการเฉพาะ ได้แก่ รถรับ-ส่งนักเรียน หอพักนักเรียน สถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ

กรณีเฉพาะความพิการ โดยเน้นย้ำสุขอนามัยต้องถือปฏิบัติอย่างเข้มข้น เข้มแข็งและเข้มงวด นอกจากนี้ ในส่วนของครู บุคลากร และนักเรียนควรมีการประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ที่ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในสถานศึกษา

ขอให้โรงเรียนเน้นจัดการเรียนการสอนเป็นกลุ่มเดียว และมีกิจกรรมทำในกลุ่มเดียวกันตลอดทั้งวัน ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันเป็นประจำ เช่น สนามเด็กเล่น อุปกรณ์ของเล่น โดยจัดกลุ่มสลับกันใช้งาน เพื่อช่วยลดการสัมผัสร่วมกันจำนวนมาก

นอกจากนี้ต้องปรับรูปแบบการรับประทานอาหารกลางวัน เช่น จัดเป็นกล่องอาหารแยกเฉพาะบุคคล และให้นักเรียนรับประทานอาหารในห้องเรียนของตนเอง ซึ่งมีที่นั่งเว้นระยะห่าง หรือปรับเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันให้เหลื่อมเวลากัน

นอกจากนี้เมื่อกลับถึงบ้าน พ่อแม่ ผู้ปกครองควรให้เด็กล้างมือด้วย สบู่และน้ำ อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ก่อนทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศธ.เลื่อนเปิดเทอมอีกรอบ เป็นวันที่ 14 มิ.ย.64

 

 

Next Post

ขสมก.สอบกรณีผู้โดยสารหญิงถูกทำร้ายบนรถมินิบัส สาย 27

พฤหัส พ.ค. 27 , 2021
ขสมก.ตรวจสอบกรณีผู้โดยสารหญิงถูกทำร้ายบนรถมินิบัส สาย 27 โดยพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ระบุตื่นเต้นตกใจจนลืมปิดประตู และผู้ก่อเหตุขู่จะทำร้าย จึงกลัวและไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่ผู้เสียหายขอให้ ขสมก.กำหนดแนวทางไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก วันนี้ (27 พ.ค.2564) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ […]