ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ชี้กรณีพระในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งฆ่าตัวตายอ้างเป็นพุทธบูชา มีความผิดตามพระธรรมวินัยถึงขั้นปาราชิกและเป็นแนวคิดสุดโต่ง ขณะที่ลูกศิษย์ อ้างพระที่ก่อเหตุลาสิกขาก่อน 1 วัน และเตรียมการนาน 5 ปี
วันนี้ (18 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เข้าสอบถามญาติโยม และลูกศิษย์สำนักสงฆ์ภูหินกอง บ้านนาแค ต.ลำภู อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู เพื่อขอรายละเอียดเหตุการณ์พระธัมกร ฐานธัมโม หัวหน้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง ฆ่าตัวตายเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งลูกศิษย์ ยืนยันว่า ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์ และพบเป็นศพในช่วงเช้า จึงแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พระอนัน จักกวโร เจ้าอาวาสวัดป่านาดี ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พระใกล้ชิดผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเตรียมการนานกว่า 5 ปี และก่อนเสียชีวิต 1 วัน ได้ลาสิกขาบท ซึ่งการกระทำครั้งนี้ตามความเชื่อเพื่อสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระศาสดาสสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อจะได้บรรลุปัจเจกโพธิญาณ ตรัสรู้ เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต
ไทยพีบีเอสตรวจสอบความเชื่อดังกล่าวกับพระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ให้ข้อมูลว่า แนวคิดเรื่องนี้หากเป็นพระสงฆ์การฆ่าตัวตายถือว่า ปาราชิก เพราะเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมและรุนแรง แต่ตามที่เป็นข่าวพระสงฆ์ที่ก่อเหตุได้ลาสิกขาก่อน จึงไม่มีความผิดตามพระธรรมวินัย แต่เป็นพฤติกรรมไม่ควรเลียนแบบ เพราะทั้งพระสงฆ์และชาวพุทธ ถือว่าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า แค่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็เพียงพอแล้ว
สำหรับอดีตพระธัมกร ฐานธัมโม ชื่อเดิมคือนายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี บวชเป็นพระจำวัดอยู่สำนักสงฆ์ภูหินกอง นาน 10 กว่าปี ซึ่งเมื่อก่อเหตุแล้ว ในวันเดียวญาติโยมได้ประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
