รมว.ยุติธรรม ชี้แจงฝ่ายค้านประเด็นเรือนจำแออัด เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษผู้ป่วยที่อายุมาก และพักโทษด้วยเหตุพิเศษใช้กำไลอีเอ็ม ยืนยัน 7 มิ.ย. เริ่มฉีดวัคซีน COVID-19 ให้ผู้ต้องขัง 37 เรือนจำในพื้นที่สีแดง
วันนี้ (1 มิ.ย.2564) เวลา 17.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชี้แจงประเด็นอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2565 ว่า กรณีการเจ็บป่วยในเรือนจำ โดยเฉพาะสถานการณ์ COVID-19 ที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำและทัณฑสถาน บางแห่งเป็นหลักหลายพันคน โดยพบการติดเชื้อใน 13 แห่ง รอผล Swab อีก 10 แห่ง และไม่พบเชื้อ 119 แห่ง
รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ผู้อภิปรายระบุว่า เรือนจำในหลักสากลจะต้องมีพื้นที่นอนไม่น้อยกว่า 2.25 ตารางเมตรต่อคน ว่า ช่วงที่รัฐบาลเข้ามาใหม่ ขณะนั้นได้คำนวณตัวเลขให้สมาชิกฯ ได้รับทราบว่า ผู้ต้องขัง 1 คน ใช้พื้นที่ไม่ถึง 1 ตารางเมตร หรือนอนทับกัน จากนั้นได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้เข้าสู่มาตรฐานของไทย คือ 1.2 ตารางเมตรต่อคน ถือว่าดำเนินการเกือบได้ ซึ่งข้อมูล ณ วันนี้ มีผู้ต้องขังเหลือ 311,958 คน จากเดิม 390,000 คน
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่ผู้อภิปรายต้องการให้พื้นที่นอนอยู่ที่ 2.25 ตารางเมตรต่อคนนั้น ปัจจุบันมีเรือนจำ 142 แห่ง และเรือนจำที่เป็นทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์อีก 1 แห่ง รวมแล้วมีพื้นที่นอน 300,000 ตารางเมตร หากต้องการให้ได้ตัวเลข 2.25 ตารางเมตรต่อคน อาจต้องสร้างเรือนจำอีกเท่าตัว หรือ 100 เรือนจำ เรือนจำละ 1,000 ล้านบาท ส่วนตัวคิดว่าใช้เวลานานมาก
นายสมศักดิ์ เสนอแนวทางแก้ปัญหาในระยะกลาง ใช้เวลา 1-2 เดือน โดยกระทรวงยุติธรรมได้เริ่มประชุม และเตรียมขอพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ป่วยติดเตียง 11,165 คน และการพักโทษด้วยเหตุพิเศษใช้กำไลอีเอ็ม แต่จำเป็นต้องให้ผู้ปกครอง หรือคนใกล้ชิด เซ็นประกันรับรอง รวมทั้งกรณีที่คู่กรณีไม่ขัดแย้ง
นอกจากนี้ มีประมวลกฎหมายยาเสพติดที่หากผ่านการพิจารณา คาดว่าจะมีผู้ต้องที่ออกจากเรือนจำได้ไม่น้อยกว่า 30,000 คน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณา ส่วนประเด็นเร่งด่วน คือ การขอพิจารณาใช้วัคซีน โดยกระทรวงยุติธรรมได้ขอมาใช้ในเรือนจำพื้นที่สีแดง 37 เรือนจำ ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าจะได้เริ่มฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย.นี้
