สธ.ประสาน “แล็ปเอกชน” ส่งต่อผู้ติดเชื้อรักษาเร็วขึ้น

สธ.หารือห้องปฏิบัติการเอกชน ส่งต่อผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพื่อรักษาตัวเร็วขึ้่น ผ่านระบบ 1668 หลังประสบปัญหาจัดหาเตียงในช่วงก่อนหน้านี้

วันนี้ (3 พ.ค.2564) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์  ร่วมแถลงถึงความร่วมมือการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่ตรวจหาเชื้อจากห้องปฏิบัติการเอกชน

นายสาธิต กล่าวว่า กรณีการตรวจหาเชื้อจากห้องปฏิบัติการเอกชน แต่เดิมมีข้อจำกัดที่พบว่าเมื่อพบว่าติดเชื้อไม่สามารถหาโรงพยาบาลในการรักษาได้เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจึงทำให้มีปัญหาเรื่องเตียง ล่าสุดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้หารือร่วมกับห้องปฏิบัติการเอกชน เมื่อตรวจเชื้อเสร็จให้ส่งข้อมูลไปยัง สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) และกรมการแพทย์ 1668 เพื่อจัดหาโรงพยาบาลในการรักษาได้โดยเร็ว

นพ.ณัฐพงศ์ กล่าวเสริมว่า เมื่อประชาชนเข้าตรวจหาเชื้อ COVID-19 และมีผลเป็นบวก ทางสายด่วน 1668 จะเป็นผู้ประสานหาเตียงในโรงพยาบาลให้กับผู้ที่ตรวจหาเชื้อกับห้องปฏิบัติการเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ผู้ติดเชื้อทุกคนจะต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ ซึ่งกลุ่มที่ต้องดูแลมีทั้งหมด 4 กลุ่มคือ 1.ตรวจพบเชื้อ 2.แสดงอาการ 3. อาการรุนแรง 4.หายจากโรค

ทั้งนี้ หลังจากตรวจหาเชื้อจากห้องปฏิบัติการต้องรายงานผลต่อกรมการแพทย์ภายใน 3 ชม. และทาง 1668 จะสามารถติดต่อและสอบถามว่า ผู้ติดเชื้อมีเตียงรองรับแล้วหรือไม่ หากไม่มีจะติดต่อขอเตียงให้ หรือจะมีระบบในการจัดหาหรือโยกย้ายอย่างเหมาะสม และเมื่อจัดหาเตียงให้แล้วขออย่าปฏิเสธการรักษาโดยขอให้ถึงมือแพทย์โดยเร็วเพื่อความปลอดภัยที่สุด

“เมื่อไม่มีเตียงขอให้โทรหา 1668 ภายใน 1-2 ชม.จะได้รับการติดต่อกลับ และสอบถามอาการเพื่อแยกผู้ป่วยและจัดความต้องการในการรักษา ซึ่งพยายามจัดให้ตรงกับความต้องการมากที่สุดทั้งสังกัดโรงพยาบาลหรือใกล้บ้าน โดยมีรถของ สพฉ.จัดบริการรับ-ส่งให้” 

ขณะที่ กรณีการยังปฏิเสธการรักษา หากมีอาการในช่วง 1 สัปดาห์ และหากมีความจำเป็นในการกักกันโรคจะต้องประสาน 191 เชิญผู้ป่วยที่ไม่ยินยอมเข้าสู่การรักษา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังครอบครัวและเพื่อนบ้าน แต่หากอาการดีมานานแล้วก็จะมีการตรวจสอบ ติดตามอาการ จนกว่าจะพ้นระยะ 14 วัน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยจาก COVID-19