กรมศุลกากรปฏิเสธคลังถังแตก รีดภาษีพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ย้ำทำตามหลักสากลเทียบราคาตามเว็บไซต์ลดดุลพินิจเจ้าหน้าที พบร้านรับหิ้วนำเข้า “อัมบั้ม – โฟโต้บุ๊ก” ศิลปินเกาหลี สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงจำนวนมาก พร้อมเปิดสายด่วนร้องทุจริตแจ้งอธิบดีได้โดยตรง
วันนี้ (22 มี.ค.2564) ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ยังวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการประเมินราคาภาษีพัสดุของกรมศุลกากรอย่างต่อเนื่อง โดยบางส่วนได้ถ่ายภาพใบประเมินภาระภาษีหรือใบเขียวพร้อมระบุว่า พร้อมจ่ายภาษีตามกฎหมาย แต่ราคาประเมินภาษีสูงเกินจริงทำให้ไม่สามารถไปรับสิ่งของได้ และบางส่วน ระบุว่า สิ่งของหายและชำรุด
ล่าสุด นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า พัสดุระหว่างประเทศไม่น้อยกว่าวันละ 3,000 กล่อง ต้องผ่านเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ เพื่อตรวจหาวัตถุต้องห้ามนำเข้า เช่า ยาเสพติด วัตถุลามก บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ แต่ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ธุรกิจรับหิ้วสินค้าบางส่วน ใช้ช่องทางส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ระหว่างประเทศแทนการเดินทางเอง และส่วนใหญ่สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง
อธิบดีกรมศุลกากร ยกตัวอย่างพัสดุขนาดใหญ่น้ำหนัก 22 กิโลกรัมที่นำเข้ามาในวันนี้ มีการสำแดงราคาหน้าหีบห่อทั้งกล่องราคา 45 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1,350 บาท เจ้าหน้าที่จึงเปิดตรวจ และพบเป็นสินค้าโฟโต้บุ๊ก Dream A Dream ของศิลปินเกาหลี NCT DREAM โดยราคาชิ้นละประมาณ 49 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,500 บาท อีกทั้งผู้นำเข้านำเข้ามาจำนวนมาก สะท้อนเจตนานำเข้ามาเพื่อการค้า
เจ้าหน้าที่ต้องออกใบแจ้งประเมินภาระภาษีใหม่ เพื่อให้ผู้นำเข้าติดต่อดำเนินการทางศุลกากร โดยคิดราคาสินค้ารวมค่าขนส่ง และประกันใหม่ ก่อนนำมาคำนวณภาษีอาการระหว่างประเทศ อีกร้อยละ 10 และภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7
เน้นสุ่มตรวจพัสดุขนาดใหญ่ สำแดงราคาต่ำ
อธิบดีกรมศุลกากร ระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรและไปรษณีย์จะสุ่มเปิดตรวจพัสดุระหว่างประเทศ ประมาณร้อยละ 3-5 ของปริมาณพัสดุทั้งหมด โดยเฉพาะพัสดุขนาดใหญ่ แต่สำแดงราคาต่ำเกินจริง พร้อมยืนยันว่า กระบวนการประเมินภาษีของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามหลักสากล องค์การการค้าโลก โดยต้องเทียบเคียงราคาสิ่งของนำเข้ากับสิ่งของที่มีลักษณะเหมือนกันที่มีข้อมูลตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกัน ผู้นำเข้ามีสิทธิอุทธรณ์ได้ โดยนำหลักฐานใบเสร็จแสดงราคาสินค้า ซึ่งคดีอุทธรณ์ส่วนใหญ่ ร้อยละ 75 จะได้รับการปรับภาระภาษีลดลง เช่น ผู้นำเข้ามีใบเสร็จจากการซื้อของจากคลังสินค้าผู้ผลิต หรือ Outlet
รู้สึกเสียใจที่ถูกผู้ใช้โซเชียลมีเดียตำหนิ และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกรมศุลกากรอย่างรุนแรง และกล่าวหาว่า การทำงานดังกล่าว สะท้อนภาวะวิกฤตการคลัง หรือ ถังแตก
เปิดช่องทางสายตรงร้องทุจริตแจ้งอธิบดี
ทั้งที่ รายได้จากการจัดเก็บภาษีพัสดุระหว่างประเทศ ในปีงบประมาณ 2563 เพียง 300 ล้านบาทเท่านั้นซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับ ขนาดยอดจัดเก็บรายได้รัฐในส่วนอื่น ๆ แต่ได้เปิดสายด่วนรับเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตหรือการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ มายังอธิบดีโดยตรง พร้อมกับตั้งทีมเฉพาะกิจ เข้าร่วมตรวจประเมินภาษีเป็นระยะ ๆ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า รวมทั้งปรับปรุงรายละเอียดการแจ้งใบประเมินภาระภาษี หรือใบเขียว ซึ่งจะระบุเหตุผลอย่างละเอียด เพื่อความโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝาย
ผมนอนไม่หลับ 2-3 คืนเลยนะเรื่องนี้ ผมไปดูทุกขั้นตอน และทุกกรณีในโซลเชียลมีเดียแต่ส่วนใหญ่ พบว่า สำแดงราคาเท็จ และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้ดุลพินิจ ประเมินภาษีเกินจริง แต่ได้เปิดสายด่วน รายงานเรื่องทุจริตถึงผมได้โดยตรง แต่ขอให้ท่าน แจ้งชื่อจริง นามสกุลจริงเท่านั้น เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
แม้มีปมดรามาการประเมินภาระภาษีพัสดุระหว่างประเทศ แต่อธิบดีกรมศุลกากร ยืนยันว่า กรมศุลกากรยังเดินหน้าศึกษาการเก็บภาษี พัสดุ ระหว่างประเทศที่ราคาของต่ำกว่า 1,500 บาท ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ความเป็นธรรมและดูแลธุรกิจเอสเอ็มอี ในประเทศ
ในปีงบประมาณ 2563 กรมศุลกากร รายงาน สถิตินำเข้าสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ ระหว่างประเทศ มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2562 ที่ 4 ล้าน 8 แสนหีบห่อ ส่วนใหญ่เป็น สิ่งของ สำแดงราคาต่ำกว่า 1,500 บาท คิดเป็นร้อยละ 92.24 แต่กรณีที่มักเกิดปัญหาการประเมินภาษี มาจาพัสดุประเภท 2 หรือ สำแดงราคาของระหว่าง 1,500 แต่ไม่เกิน 40,000 บาท คิดเป็นปริมาณพัสดุรวมทุกประเภท มากกว่า 38 ล้านหีบห่อ คิดเป็นยอดจัดเก็บภาษีรวมประมาณ 700 ล้านบาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมศุลฯ แจงดรามาประเมินภาษีพัสดุต่างประเทศ ยันทำตามหลักสากล