เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เตรียมย้าย 29 แรงงานติดเชื้อ COVID-19 ออกจากแคมป์หลักสี่ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เฝ้าสังเกตอาการกลุ่มเสี่ยงสูงกว่า 500 คน ตรวจคัดกรองเพิ่มรอบ 2 วันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.)
วันนี้ (22 พ.ค.2564) เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค พร้อมกับล่ามจิตอาสามูลได้เข้าไปสื่อสารกับแรงงานก่อสร้างภายในแคมป์ ซอยยายผล เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เพื่อสอบถามอาการของโรคและความต้องการของแรงงานที่ติดเชื้อ COVID-19 และไม่ติดเชื้อกว่า 600 คน ที่กักตัวอยู่ภายในทำงานก่อสร้าง และยังเหลือแรงงานที่ติดเชื้อ 29 คน ซึ่งจะเป็นผู้ป่วยล็อตสุดท้ายที่จะมีการเคลื่อนย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลในช่วงเย็นวันนี้
นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตหลักสี่ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยรอบแคมป์งาน โดยระบุว่า แม้จะพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่ยังไม่มีความจำเป็นที่จะสร้างโรงพยาบาลสนามเหมือนที่อื่น ๆ เนื่องจากว่ามีโรงพยาบาลรองรับทุกคนและผู้ป่วยล็อตสุดท้ายก็จะถูกนำไปรักษาตัวแล้ว
สำหรับคนงานภายในแคมป์กว่า 500 คน ที่ไม่ติดเชื้อซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ยังต้องติดตามและสังเกตอาการต่อเนื่อง โดยจะมีการกำชับการปฏิบัติตัวป้องกันโรค รวมถึงตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาเชื้อโควิด (swab) รอบที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค.2564 โดยรถตรวจพระราชทาน ณ ไซต์งานก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซอยแจ้งวัฒนะ 5 เพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดแผนเฝ้าระวังโรคในพื้นที่ต่อไป
ขณะที่ผลการตรวจหาเชื้อ 7 ชุมชนที่อยู่รอบทำงานยังต้องรอผลแลปซึ่งหากผลตรวจเลือดออกมาก็จะประเมินได้ชัดเจนว่าการระบาดภายในแคมป์คนงานจะกระจายไปสู่ชุมชนมากน้อยแค่ไหน
ขณะเดียวกันสำนักงานเขตสี่ได้ประชาสัมพันธุ์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ชุมชนรอบแคมป์งาน จะเปิดให้ฉีดวันละ 1,000 คน ตั้งแต่วันที่ 25-29 พ.ค.นี้ ณ โรงเรียนบางเขน (ไว้สมอนุสรณ์)
การระบาดในแคมป์งานหลักสี่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีแรงงานในแคมป์ 1,667 คน ติดเชื้อ 1,130 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เป็นแรงงานข้ามชาติ และจากผลการส่งตรวจ 80 ตัวอย่างพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เป็นสายพันธุ์อินเดียถึง 36 คน เป็นคนไทย 21 คน เมียนมา 10 คน กัมพูชา 5 คน
