รัฐบาลมาเลเซียสั่งปิดเมืองทั่วประเทศระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1-14 มิ.ย. หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 8,000 คนต่อวัน หากประสบความสำเร็จในการยับยั้งการแพร่ระบาด จะใช้มาตรการปิดเมืองระยะที่ 2 และ 3 ต่อไป
วันนี้ (29 พ.ค.2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยคำสั่งปิดเมืองทั่วประเทศ ระยะที่ 1 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-14 มิถุนายน ซึ่งจะทำให้สถานที่และห้างร้านต่าง ๆ ต้องปิดบริการนาน 2 สัปดาห์
สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระบุว่าภาคธุรกิจและการบริการที่สภาความมั่นคงแห่งชาติจัดว่าเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการได้ในช่วงระยะแรกของการปิดเมือง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุด 4 วันติดต่อกัน รวมถึงเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 8,200 คน นับเป็นครั้งแรกที่มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อเกิน 8,000 คนต่อวัน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มมากกว่า 549,000 คน และมีผู้ป่วยที่กำลังอยู่ระหว่างการรักษาตัวมากกว่า 70,000 คน
การคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียชี้ว่า หากยังไม่มีมาตรการควบคุม จำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นจนแตะวันละ 9,000 คน ภายในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้ติดเชื้อทำให้ขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลทั่วประเทศลดต่ำลงเรื่อย ๆ
ขณะที่เมื่อวานนี้ มาเลเซียมีผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 เพิ่มขึ้น 61 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรวม 2,552 คน ซึ่งหากการปิดเมืองระยะแรกประสบความสำเร็จในการยับยั้งการแพร่ระบาด มาเลเซียจะเข้าสู่มาตรการปิดเมืองระยะที่ 2 ซึ่งจะอนุญาตให้ธุรกิจบางส่วนที่ไม่นำมาซึ่งการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เริ่มปิดบริการอีกครั้งต่อไปอีก 4 สัปดาห์ จากนั้นจึงจะเข้าสู่ระยะที่ 3 ที่เปิดให้ห้างร้านทำธุรกิจได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติ เหลือเพียงมาตรการจำกัดการเดินทาง และงดกิจกรรมทางสังคมเท่านั้น