ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พบข้อมูลกลุ่มคนไทยที่ร่วมลักลอบลำเลียงไอซ์กว่า 300 กิโลกรัม ไปออสเตรเลียแล้ว กำลังเร่งขยายผลดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
จากกรณีที่ทางการออสเตรเลียเผยแพร่ข่าวการยึดไอซ์ได้ 316 กิโลกรัม ต้นทางจากประเทศไทย ซุกซ่อนมากับกล่องเตาปิ้งย่างไฟฟ้า และเครื่องทำน้ำอุ่น 62 กล่อง โดยลำเลียงทางเรือผ่านท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ปลายทางนครซิดนีย์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า ขณะนี้พบกลุ่มที่ลักลอบขนยาเสพติดแล้ว เป็นคนไทย ที่นำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ และนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาแกะด้านในออก เพื่อใส่ยาเสพติดเข้าไป จากนั้นได้ว่าจ้างบริษัท ชิปปิ้งขนส่งสินค้าดังกล่าวทางเรือไปยังออสเตรเลีย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่
ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบดูว่าในกระบวนการขนส่งผ่านขั้นตอนศุลกากรมีความผิดปกติบ้าง หรือมีใครที่มีเหตุทุจริต อาจจะไม่ทำตามขั้นตอนหรือซุกซ่อนสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งกำลังดำเนินการตรวจค้น
ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริษัทขนส่งไว้แล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่ากลุ่มผู้ที่ลักลอบขนส่งจะเป็นกลุ่มที่เคยมีประวัติการก่อเหตุมาแล้วหรือไม่
ตำรวจออสเตรเลียขยายผลเครือข่ายส่งไอซ์
ด้านตำรวจรัฐบาลกลางออสเตรเลียจับมือกับตำรวจหน่วยปราบปรามองค์กรอาชญากรรม กรมตำรวจรัฐนิว เซาท์ เวลส์ กองกำลังชายแดนออสเตรเลีย และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งสืบสวนเพื่อขยายผลในคดีนี้ พร้อมทั้งได้ร้องขอให้ประชาชนที่ทราบข้อมูลแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่
ออสเตรเลียถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดข้ามชาติ เนื่องจากมีราคาจำหน่ายยาเสพติดที่สูงติดอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีรายงานว่าการปิดพรมแดนส่งผลให้ราคายาเสพติดในออสเตรเลียยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นกว่าปกติ
ขณะที่การยึดยาเสพติดครั้งใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วเป็นการยึดยาไอซ์ที่ลักลอบขนมาจากประเทศไทย มูลค่าประมาณ 29,000 ล้านบาท
