พรรคการเมืองฝ่ายค้านยืนยันเดินหน้าประชุมรัฐสภาโหวตวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ส่วนหัวหน้าพรรคก้าวไกลเรียกร้องรัฐบาล ทำประชามติถามประชาชนตามมาตรา 166 ว่า ต้องการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (12 มี.ค.64) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายค้านเพื่อประชาชน แถลงท่าทีและการดำเนินการประชุมรัฐสภา ยืนยันเดินหน้าโหวตวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และตั้งหมวด ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังคำวินิจฉัยของศาล กรณีอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หน้าหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำรัฐสภาควรเดินหน้าต่อเพื่อไม่ให้ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาล ซี่งเป็นวาระที่ค้างอยู่แล้ว แต่ก็เห็นว่าอาจมีบางส่วนไม่เห็นด้วย
ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำ 4 ประเด็น คือ 1.ยืนยันอำนาจรัฐสภาในการแก้รัฐธรรมนูญ ที่ไม่ควรมาจากวิธีการล้มล้างการปกครอง 2. คำวินิจฉัยของศาลที่ออกมาคล้องกับกระบวนการที่รัฐสภาดำเนินการอยู่ ที่เป็นการแก้ไขแบบรายมาตราไม่ใช่การยกร่างฉบับใหม่ หากมีการตีความให้เป็นโมฆะถือว่าเป็นการตีความที่ไม่เห็นหัวประชาชน 3.หากมีใครโหวตคว่ำร่างฯในครั้งนี้ก็จะแสดงให้เห็นว่าใครไม่จริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ และ 4.เรียกร้องให้รัฐบาลทำประชามติถามประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 166 ว่าต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
ส่วนนายวันมูฮะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติย้ำ ประธานรัฐสภาทำถูกแล้วในการบรรจุวาระการประชุมเดินหน้าโหวตวาระ 3 ชี้ควรพิจารณาวาระโหวตร่างรัฐธรรมนูญก่อน หากเอาเรื่องอื่นขึ้นมาพิจารณาแทรกอาจทำให้วาระการพิจารณาเรื่องนี้ต้องตกไป ก่อนจะย้ำว่ารัฐบาล ส.ส. และ ส.ว. คงได้เห็นวิกฤตของบ้านเมืองที่จะต้องแก้ไขหากแต่ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำตีตกไปหรือถูกละเลยก็จะเป็นการกระทำที่แย้งต่อคำวินิจฉัยของศาล โดยคาดหวังให้การโหวตวาระ3 เป็นไปด้วยดี เพื่อให้ปัญหาบ้านเมืองผ่านพ้นไปได้พร้อมกันนี้ยังกล่าวถึงฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม ไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะล้มความต้องการของประชาชนโดยขอให้รัฐสภาเห็นหัวของประชาชนบ้าง
ขณะที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ย้ำขอให้รัฐสภาเห็นแก่ชาติบ้านเมืองอย่าเห็นแก่ตัว ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภาที่สามารถดำเนินการได้
นอกจากนี้นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อธิบายเงื่อนไขจากข้อกังวลการตีความมาตรา 5 ว่าหากมีการประกาศบังคับใช้ร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะผ่านวาระ 3 นี้ ตามเงื่อนไข จะต้องตั้ง ส.ส.ร.ภายใน 30 วันตามกรอบเวลานั้น ทางออกคือ ในการทำประชามติ ครั้งที่จะถามประชาชนให้ถาม 2 คำถามในคราวเดียวกัน คือ 1 .ถามประชาชนว่าต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และ2.ทำประชามติร่างที่ผ่านวาระ 3