ประชุมผบ.ทหารสูงสุด 10 ชาติอาเซียนรับภัยคุกคาม

“พล.อ.เฉลิมพล” ร่วมประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน ครั้งที่ 18 กระชับความร่วมมือรับภัยคุกคาม-อาชญากรรมข้ามชาติ-ยกระดับการฝึกร่วม ขณะที่พลเอกมิน อ่อง หล่าย ผบ.ทหารสูงสุด ปรากฎตัวในกาประชุมผ่านระบบออนไลน์

ท่ามกลางเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารกับผู้ประท้วงรัฐบาลในเมียนมาที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แต่เวทีการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน ครั้งที่ 18 (The 18th ASEAN Chiefs of Defence Forces Meeting (ACDFM-18) 2021)ยังคงเดินหน้าตามกรอบการประชุมเมื่อวานนี้(18 มี.ค.64) โดยพลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทยได้เข้าร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Teleconference : VTC) ณ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

 

นอกจากนี้ยังมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุดจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เข้าร่วมประชุม โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้บัญชาการทางทหารระดับสูงของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนในการเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาค ภายใต้หัวข้อ We Care, We Prepare, We Prosper

สาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วยการเสนอความคิดเห็นของผู้แทนแต่ละประเทศถึงสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค รวมทั้ง สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 แนวทางการรับมือและบทบาทของกองทัพในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความสำคัญของการเตรียมพร้อมในการเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย โจรสลัด เป็นต้น รวมถึงความจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ผ่านกลไกอาเซียนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การฝึก การประชุม และการเตรียมพร้อมในทุกมิติ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งภายในและนอกอาเซียน

 

ซึ่งกองทัพบรูไนในฐานะประธานการประชุมฯ ได้เสนอแนวคิดให้มีการจัดการฝึก ASEAN Military Exercise (AMX) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมกับการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ รวมทั้ง การร่วมผลักดันเวที ASEAN Military Intelligence Community (AMIC) ที่กองทัพเวียดนามได้เสนอในการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน ครั้งที่ 17 เมื่อปี 2563 ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าวย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือและบทบาทของกองทัพอาเซียน รวมถึงความสำเร็จของการปฏิบัติร่วมกันในภารกิจการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างกันและกัน ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจ (We Care) การเตรียมพร้อม (We Prepare) และอนาคตที่ทุกประเทศจะเจริญรุ่งเรือง (We Prosper) ไปด้วยกัน

 

 

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้แทนกองทัพประเทศสมาชิกอาเซียนยังได้ร่วมเห็นชอบในเอกสารสรุปผลการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน ครั้งที่ 18 (18th ACDFM Joint Statement) ซึ่งรวมถึงแผนงานกิจกรรมความร่วมมือทางทหารอาเซียน ห้วงเวลา 2 ปี (พ.ศ.2564 – 2566) (2-Year ASEAN Militaries Work Plan (2021 – 2023) ภายหลังจากการประชุมกองทัพบรูไนได้ส่งมอบหน้าที่ประธานการประชุมฯ ครั้งต่อไปให้แก่ กองทัพกัมพูชา ซึ่งจะรับหน้าที่ประธานอาเซียนในปี 2565

เป็นที่สังเกตว่า พล.อ.มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ร่วมวงประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียนผ่านระบบVTCในครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางสถานการณ์ในเมียนมาที่กำลังถูกจับตามอง ภายหลังเหตุรัฐประหารในเมียนมาและเกิดการประท้วงจนนำไปสู่เหตุปะทะ มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ผู้ประท้วงถูกสังหารมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้มีรายงานว่าพลเอกมินอ่องหล่ายไม่ได้พูดถึงสถานการณ์การเมืองภายในเมียนมา และที่ประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียนก็ไม่ได้มีการซักถามเนื่องจากแนวทางของชาติอาเซียนมีจุดยืนไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิก และกรอบการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียนเป็นการหารือในประเด็นด้านความมั่นคงการทหารเพื่อเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในภูมิภาค ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองของแต่ละประเทศ

ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อ.ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ ม.รังสิต วิเคราะห์บทบาททางทหารว่า หากสถานการณ์ในเมียนมารุนแรงขึ้น เชื่อว่า บทบาทของทหารไทยในด้านมนุษยธรรมเพื่อรับมือกับชาวเมียนมาที่อาจจะหลบหนีเข้ามาในฝั่งไทยน่าจะปรากฎชัดขึ้น สะท้อนจากท่าทีของกองทัพไทยที่คงไม่ปฏิเสธในการแสดงบทบาทลักษณะนี้

พร้อมมองว่าท่าทีของอาเซียนน่าจะไม่ดำเนินการใดๆที่เป็นการแทรกแซงการแก้ปัญหาของรัฐบาลของเมียนมา แม้แต่อินโดนีเซียนซึ่งเป็นประเทศใหญ่ในอาเซียน ซึ่งแสดงความกังวลในช่วงแรกๆหลังเหตุรัฐประหารในเมียนมา แต่ภายหลังมีท่าทีที่อ่อนลงต่อสถานการณ์ในเมียนมา

Next Post

แรงงานรับเหมาก่อสร้างในสมุทรปราการ ติดโควิด 15 คน

ศุกร์ มี.ค. 19 , 2021
เจ้าหน้าที่ค้นหาเชิงรุกตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ ที่ จ.สมุทรปราการ เป็นแรงงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง 15 คน ล่าสุด เจ้าหน้าที่แยกตัวไปรักษาแล้ว วันนี้ (19 มี.ค.2564) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพร้อมฝ่ายปกครอง และตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการเข้าตรวจสอบ ก่อนแยกตัวผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 รายใ […]