ประกาศ “กรมราง” เข้มเว้นระยะห่าง – เดินรถหลัง 5 ทุ่มเท่าที่จำเป็น

กรมการขนส่งทางราง ออกประกาศให้หน่วยงานบริการขนส่งทางรางจัดการเว้นระยะห่างบนขบวนรถ-จำกัดจำนวนภายในสถานีไม่ให้หนาแน่น พร้อมร่วมมือเดินรถช่วง 23.00-04.00 น. เท่าที่จำเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของ ศบค.

วันนี้ (17 เม.ย.2564) นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามออกประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง แนวทางปฏิบัติการเพื่อป้องกันและยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยประกาศฉบับนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.นี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย หรือมีประกาศเปลี่ยนแปลง

โดยการประออกประกาศดังกล่าว เพื่อให้หน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบ ดำเนินการ เพิ่มความเข้มงวดสูงสุดในการกำกับและถือปฏิบัติมาตรการป้องกัน COVID-19 โดยขอความร่วมมือในการจำกัดการบริการเดินรถ โดยให้มีเส้นทางการบริการ ขบวน หรือความถี่เท่าที่จำเป็น ในช่วงเวลา 23.00 – 04.00 น. ของวันรุ่นขึ้น เพื่อให้เกิดการชะลอหรืองดการเดินทางที่ไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด

คัดกรองเข้ม – เน้นเว้นระยะห่าง

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือในการตั้งจุดสกัดหรือจุดคัดกรองผู้โดยสาร โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ต้องไม่เดือดร้อนประชาชน และประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางที่ไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่อาจทำให้เสี่ยงหรือมีโอกาสติดโรค

ส่วนภายในขบวนรถและภายในสถานีบริหารจัดการไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัดของผู้โดยสาร ใช้มาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างเคร่งครัด เช่น การดำเนินมาตรการ Group Release ภายในสถานี และการเพิ่มขบวนรถเสริมหรือเพิ่มความถี่การบริการในช่วงเวลาเร่งด่วน

ขณะเดียวกัน ยังขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เช่น การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางราง  ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อเข้าและออกจากระบบ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างการที่จุดคัดกรอง  และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค

เน้นจัดกลุ่มแยกไทม์ไลน์ หลังพบผู้ติดโควิด

สำหรับกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ให้ดำเนินการแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมงนับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อฯ เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนโรคและเข้ารับการรักษาทางการแพทย์หรือมาตรการด้านสาธารณสุข และหยุดกิจกรรมหรือการให้บริการพื้นที่ เพื่อทำความสะอาดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในพื้นที่และจุดสัมผัสร่วม

ขณะที่ผู้ที่มีความเสี่ยงให้ดำเนินการตามมาตรการกักตนเอง (Self-Quarantine) ทันทีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และไปพบแพทย์หรือสาธารณสุขพื้นที่ เพื่อทำการตรวจรักษา และสามารถกลับมาปฏิบัติงานตามปกติเมื่อกักตัวครบ 14 วัน โดยต้องมีผลการตรวจหาเชื้อฯ เป็นลบ

นอกจากนี้ ให้จัดกลุ่มผู้ปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม รอบ หรือกะ ที่มี Timeline ไม่เชื่อมโยงกัน เพื่อสามารถสลับสับเปลี่ยนกลุ่มผู้ปฏิบัติงานทั้งกลุ่มทดแทนกันได้หากเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อ และต้องมีการกักตนเอง (Self-Quarantine) เพื่อลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพการให้บริการระบบขนส่งทางราง

 

Next Post

เร่งสั่งเพิ่ม! โควิดระลอกใหม่ใช้ "ฟาวิพิราเวียร์" 20,000 เม็ด/วัน

อาทิตย์ เม.ย. 18 , 2021
ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ระลอกใหม่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยทีมแพทย์ต้องใช้ยาฟาวิพิราเวียร์วันละกว่า 20,000 เม็ด ทำให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งสั่งซื้อเพิ่มอีก 500,000 เม็ด คาดถึงไทยในวันที่ 29 เม.ย.นี้ วันนี้ (17 เม.ย.2564) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์การระบาด COVID-19 รอบใหม่ที […]