บีทีเอส ยื่นหนังสือทวงถามหนี้การเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30,000 ล้านบาท หลัง 60 วัน กทม.-กรุงเทพธนาคม ไร้คำตอบชำระหนี้ ยืนยันไม่ยืดระยะเวลาจ่ายหนี้ให้
วันนี้ (2 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนฝ่ายกฎหมายของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) และกรุงเทพมหานคร ภายหลังจากครบกำหนด 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2564 เรื่องการขอให้ชำระหนี้การเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 (ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า, ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง) และส่วนต่อขยายที่ 2 (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต, ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่งค้างชำระมาเป็นเวลา 3 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่เดือน เม.ย.2560 จำนวน 9,602 ล้านบาท และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ที่ถึงกำหนดชำระในเดือนมีนาคม 2564 จำนวน 20,768 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท
ตัวแทนฝ่ายกฎหมายของบีทีเอส ระบุว่า การเดินทางเข้ายื่นหนังสือในครั้งนี้ เนื่องจากครบกำหนดระยะเวลา 60 วัน และยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ หลังจากนี้บีทีเอสจะกลับไปพิจารณาตามเงื่อนไขสัญญา หรือจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายบริษัทฯ ต่อไป
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท บีทีเอสซี กล่าวว่า หลังจากครบกำหนดตามระยะเวลาที่บริษัทฯ ได้มีหนังสือทวงถามการชำระหนี้ แต่เคทีและ กทม.ยังนิ่งเฉย ถือว่าบริษัทได้มาถึงสุดทางแล้ว ขณะนี้ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่า บริษัทฯ จะดำเนินการตามช่องทางของกฎหมายใดได้บ้าง เพื่อเตรียมการฟ้องร้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทครั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่นำมาพิจารณาเรื่องการหยุดวิ่งให้บริการแต่อย่างใด เพราะเป็นทางเลือกสุดท้าย ระหว่างนี้บริษัทฯ จะยังคงให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามปกติ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินทางของประชาชน
