นายกรัฐมนตรี ตรวจความพร้อมโรงพยาบาลสนาม ย่านหนองจอก พร้อมกำชับกระทรวงสาธารณสุขเร่งแก้สายด่วน 1669 หลังทดสอบโทรศัพท์ด้วยตัวเองแล้วไม่มีใครรับสาย และสั่งให้กระทรวงกลาโหมจัดเตรียมรถทหารเสริมภารกิจรับผู้ติดเชื้อ COVID-19
วันนี้ (21 เม.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโรงพยาบาลสนาม ที่ใช้อาคารเอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก เป็นสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 โดยระหว่างการลงพื้นที่นายกรัฐมนตรี ได้ทดลองติดต่อสายด่วน 1669 ที่เป็นสายด่วนให้บริการเฉพาะผู้ป่วยวิกฤตนอกสถานพยาบาล สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ แต่กลับไม่มีคนรับสาย
ผมให้คนโทรไปนะ ผมเป็นคนให้โทรไม่มีคนรับ ผมไม่ได้จับผิด แต่ไม่มีคนรับ มันเกิดอะไรขึ้น ไปแก้ตรงนี้
ภาพ : ไทยคู่ฟ้า
นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าทุกอย่างมีปัญหาจึงต้องแก้ไข พร้อมขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลในการตรวจสอบความพร้อมในการรับผู้ป่วยเข้ามารักษา พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางแผนรองรับกับสถานการณ์ในอนาคต และให้กระทรวงกลาโหม เตรียมรถพยาบาลจากโรงพยาบาลทหาร และค่ายทหาร สนับสนุนภารกิจร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และ กทม.
ภาพ : ไทยคู่ฟ้า
อย่างไรก็ตาม ภายหลังไลฟ์บรรยากาศการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีถูกลบออกจากเพจไทยคู่ฟ้า ท่ามกลางข้อสังเกตถึงประโยคที่นายกรัฐมนตรี พูดถึงแผนสำรองรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต คือการนำรถสิบล้อรับ-ส่ง ผู้ป่วย ซึ่งอาจเกิดการสื่อสารผิดพลาด
นายกฯ เปิดเสรีนำเข้าวัคซีน ย้ำไม่รู้จักคนนอกประเทศ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เตรียมประเมินสถานการณ์ภาพรวมการติดเชื้อ COVID-19 ในช่วง 14 วัน หากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น รัฐบาล หรือ ศบค. อาจต้องเพิ่มมาตรการให้มีความเข้มข้นมากขึ้น พร้อมย้ำรัฐบาลเปิดเสรีให้มีการนำเข้าวัคซีน แต่จะต้องเป็นกติกาที่รัฐบาลกำหนด
ภาพ : ไทยคู่ฟ้า
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข้อเสนอของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาสาเจรจากับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อจัดหาวัคซีนทางเลือก โดยกล่าวย้ำว่าไม่รู้จักคนนอกประเทศ
เตรียมจัดหาไฟเซอร์ 5-10 ล้านโดส
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า คณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ข้อยุติถึงการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีก 2-3 ชนิด หรือ ประมาณ 35 ล้านโดส ซึ่งภาคเอกชนจะจัดหาให้กับพนักงานลูกจ้างประมาณ 10-15 ล้านโดส พร้อมสั่งให้เร่งวางแผนการกระจายและฉีดวัคซีนที่จัดหามาทั้งหมด ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2564
คณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งประกอบด้วย คณะแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข…
โพสต์โดย ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha เมื่อ วันอังคารที่ 20 เมษายน 2021
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า รัฐบาลเตรียมจัดหาวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ประมาณ 5-10 ล้านโดส ซึ่งสามารถฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และในวันพรุ่งนี้เตรียมเจรจากับตัวแทนวัคซีนอีก 2-3 บริษัท รวมถึงการเจรจาจัดซื้อเมื่อมีการขึ้นทะเบียนวัคซีน สปุ๊ตนิก