ธ.ก.ส.พร้อมสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรที่สนใจจะปรับเปลี่ยนไปปลูกกัญชาที่เป็นนโยบายรัฐ โดยเฉพาะผู้ปลูกใบยาสูบที่สนใจปลูกกัญชา โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนในการปรับเปลี่ยนการผลิต ในวันที่ 1 เม.ย.นี้
ในช่วงปี 2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ปี 2563 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร โดยการพักหนี้ทั้งระบบเเละจะครบกำหนดพักหนี้จนถึง มี.ค.2565
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ระบุว่า ธนาคารได้จัดเกณฑ์ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้ากว่า 2 ล้านคน จำนวนมูลหนี้กว่า 9 เเสนล้านบาท โดยเเบ่งออกเป็น สีเขียว คือ ลูกหนี้ที่สามารถชำระได้ตามปกติ สีเหลือง ต้องผ่อนผันตามฤดูกาลของผลผลิต เเละสีเเดง คือ หนี้เสีย โดยในกลุ่ม สีเขียวเเละเหลือง รวมกัน กว่า 1.7 ล้านคน มูลหนี้ 7 เเสนล้านบาท
สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มสีเหลือง เเละสีเเดง ธนาคารสามารถออกมาตรการช่วยเหลือได้ทันที ทั้งนี้ สินค้าเกษตรที่อาจต้องเผชิญกับราคาตกต่ำ คือ ปาล์มน้ำมัน ข้าว มันสำปะหลัง เเละ ข้าวโพด ซึ่งธนาคารจะติดตามการเคลื่อนไหวของราคาต่อไป
ส่วนกรณีที่เกษตรกรที่ปลูกใบยาสูบและกลุ่มอื่นที่สนใจเปลี่ยนมาปลูกกัญชา นายธนารัตน์ ระบุว่า ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อ แต่ต้องหาข้อในข้อกฎหมายเงื่อนไขในการปลูกให้มีความชัดเจนโดยเตรียมหารือกับโรงงานยาสูบถึงเเนวทางเเละความเป็นไปได้ในการดำเนินการ ทั้งนี้ หากกฎหมายเปิดทาง ธ.ก.ส.มีสินเชื่อที่พร้อมปล่อยในปี 64 เเบ่งเป็น สินเชื่อสมาร์ตฟาร์มเมอร์วงเงิน 7,000 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชหรือปรับเปลี่ยนการผลิต วงเงิน 10,000 ล้านบาท
