กรมทางหลวง ยืนยันจ่ายค่าเวนคืนที่ดินสร้างมอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-โคราช”ครบทุกรายตั้งแต่ปี 63 เหลือเพียงผู้ยื่นอุทธรณ์จำนวน 361 คนจำนวน 415 ล้านบาท เตรียมตั้งงบฯปี 65 เคลียร์จบ ก.ย.ปีหน้า
วันนี้ (5 เม.ย.2564) จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า กรมทางหลวง (ทล.) และหรือกระทรวงคมนาคม ยังดำเนินการจ่ายค่าเวนคืนที่ดินในโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) บางปะอิน-นครราชสีมาให้กับประชาชนยังไม่ครบ แต่กลับจะเร่งรัดเปิดเส้นทางบางช่วงให้ประชาชนใช้สัญจรได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 นี้ ถือเป็นการเยาะเย้ยดูหมิ่นเจ้าของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ ที่ยังไม่ได้รับเงินค่าเวนคืนโดยตรง พร้อมทั้งหาก ทล.ยังไม่เคลียร์ค่าเวนคืนให้แล้วเสร็จ มีแผนจะไปดำเนินการร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อระงับการเปิดใช้เส้นทางดังกล่าวไว้ก่อนนั้น
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล.เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว มีระยะทาง 196 กม.ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อปี 2559 มูลค่าโครงการลงทุน 84,600 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง วงเงิน 77,970 ล้านบาท และค่าเวนคืนที่ดิน วงเงิน 6,630 ล้านบาท โดย ทล.ได้ดำเนินการจ่ายค่าเวนคืนที่ดินตั้งแต่ปี 2559 และครบทุกรายแล้วเมื่อปี 2563 ซึ่งงบประมาณที่นำมาจ่ายค่าเวนคืนที่ดินนั้น จะดำเนินการเมื่อได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปี จึงทำให้ ทล.ไม่สามารถจ่ายครบทั้งหมดในครั้งเดียวได้
แต่จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ ออกมากล่าวนั้น เป็นการค้างจ่ายค่าอุทธรณ์ กรณีที่ผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินไม่เห็นด้วยกับวงเงินค่าเวนคืนที่ดินที่ได้รับ และไปยื่นอุทธรณ์ขอวงเงินเพิ่มที่กระทรวงคมนาคมภายใน 90 วัน และมีมติให้ ทล.จ่ายค่าเวนคืนเพิ่มเติม เช่น ทล.จ่ายค่าเวนคืนที่ดิน วงเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการประเมินตามเกณฑ์ของราชการ แต่ประชาชนไปยื่นอุทธรณ์เพิ่ม และหากมีการตัดสินว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก ทล.จะดำเนินการจ่ายเพิ่มตามที่ผู้ได้รับผลกระทบยื่นอุทธรณ์ เป็นต้น ซึ่งในกระบวนการขออุทธรณ์นั้น บางเรื่องต้องใช้เวลา 1 ปีครึ่ง จึงจะแล้วเสร็จทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุด พบว่า ผลการอุทธรณ์จากค่าเวนคืนที่ดินที่ ทล.ยังไม่ได้จ่ายนั้น มีจำนวน 361 คน วงเงิน 415 ล้านบาท ซึ่ง ทล.ได้ตั้งงบขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เพื่อดำเนินการในส่วนนี้ หากได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว ทล.จะทยอยจ่ายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป จนสิ้นสุดปีงบประมาณวันที่ 30 ก.ย. 2565
ขณะเดียวกัน หากผู้ได้รับผลกระทบยังไม่พอใจกับค่าเวนคืนที่ดินอีก สามารถดำเนินการยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง และขึ้นอยู่กับการพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ทล.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้พยายามจัดตั้งงบประมาณมาดำเนินการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการมากที่สุด
ส่วนกรณีหากยังจ่ายค่าเวนคืนไม่แล้วเสร็จ จะเปิดทดลองให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วง อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว ระยะทาง 36 กม. ในพื้นที่ของมอเตอร์เวย์ตอนที่ 24-37 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้หรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า จากการตรวจสอบในจำนวน 361 คนที่ยังไม่จ่ายค่าอุทธรณ์จากการเวนคืนที่ดินนั้นไม่ได้อยู่ในช่วงที่จะเปิดให้บริการแต่อย่างใด เนื่องจากตอนที่ 24-37 เป็นพื้นที่ของทหารและเป็นพื้นที่ที่ใช้เขตทางหลวงบริเวณถนนมิตรภาพ แต่จะมีบริเวณทางลงช่วงต่างระดับสีคิ้วที่จะมีการใช้พื้นที่ของชาวบ้านบ้าง ซึ่งได้เคลียร์จ่ายค่าเวนคืนทั้งหมดแล้ว ส่วนในจำนวน 361 คนนั้น พื้นที่จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นโครงการฯ คือ ตอนที่ 1-4 บริเวณพื้นที่ตั้งแต่บางปะอิน และวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
รายงานข่าวจาก ทล.ระบุว่า ในวันที่ 7 เม.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดใช้งานมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ตอน อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว ระยะทาง 36 กม. เพื่อรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 นี้ โดยในเวลา 15.00 น. จะลงพื้นที่บริเวณจุดตัดมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 กับถนนมิตรภาพที่ กม.ที่ 65 บ้านหนองไผ่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จากนั้นเวลา 16.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเดินทางถึงจุดเฝ้าระวังเรือนจำกลางคลองไผ่