ตำรวจจับ 20 คน คุมตัวสอบ บก.ตชด.ภาค 1

ตำรวจจับผู้ชุมนุม เข้าข่ายกระทำความผิดจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.2564) จำนวน 20 คน เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค และกฎหมายอาญามาตรา 112

วันนี้ (21 มี.ค.2564) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ความวุ่นวายในการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า รีเด็ม (REDEM)

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า การชุมนุมในขณะนี้ ยังอยู่ในการประกาศ พระราชกำหนดฉุกเฉิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในที่สาธารณะพร้อมย้ำความจำเป็นในการใช้เครื่องกีดขวาง เนื่องจากกังวลว่า การชุมนุมจะกระทบต่อสถานที่สำคัญ อีกทั้ง ไม่ต้องการให้การชุมนุมนำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงจำเป็นต้องระงับยับยั้งไว้ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้ชุมนุมและสถานที่สำคัญ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ ระบุว่า การใช้ยุทธวิธีเป็นไปตามหลักสากล และทุกขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนทุกระยะ ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

ขณะที่ รอง ผบช.น.แถลงสรุปเหตุการณ์การชุมนุม โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. เริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุม ชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมา เวลา 17.22 น. กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินทางเข้าพื้นที่ท้องสนามหลวง เวลา 17.35 น.ตำรวจประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าการชุมนุมเข้าข่ายความผิดกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ตำรวจออกนอกพื้นที่

เวลา 18.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มรื้อถอนแนวกีดขวาง และต่อมาได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นแดงอีกฝั่งของตำรวจ โดยมีการใช้ก้อนหิน ลูกแก้วและลูกเหล็ก รวมทั้งประทัดยักษ์โยนเข้าใส่กลุ่มตำรวจ ซึ่งตำรวจพบว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม และตำรวจยังพบว่า มีความพยายามทำลายทรัพย์สินราชการ เช่น กล้องวงจรปิดจากนั้น ตำรวจประกาศแจ้งเตือนอีกครั้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตำรวจเห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยังมีความพยายามในการบุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ในสถานที่สำคัญ ตำรวจจึงจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีฉีดน้ำแรงดันสูง และผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้พ้นจากสนามหลวง

เวลา 20.50 น.ตำรวจสามารถรักษาพื้นที่ท้องสนามหลวงไว้ได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวออกไปในบริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และบริเวณแยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้น ตำรวจพบ มีกลุ่มผู้กระทำผิดจุดไฟขึ้นหลายแห่ง บริเวณถนนราชดำเนิน บริเวณหน้ากองสลากและท้องสนามหลวง โดยพบว่ารถยนต์ทรัพย์สินของตำรวจได้รับความเสียหายหลายคัน

หลังจากที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ตำรวจจับผู้กระทำผิดได้ 20 คน ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ความผิดตามพระราชกำหนดฉุกเฉินฯ และความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมโรค รวมทั้ง ข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองโดยใช้อาวุธและกำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 วรรค 1 และ วรรค 2 และความผิดฐานต่อสู้ ขัดขวางและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และมาตรา 140 นอกจากนี้ตำรวจยังจับผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพิ่มเติมอีกหลายคน

ส่วนผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดเล็กน้อยตำรวจได้เปรียบเทียบปรับและปล่อยตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.2564) ส่วนที่เหลือถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ปทุมธานี เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลตามกฎหมายต่อไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 11 นาย โดยได้รับอันตรายจากการถูกก้อนหิน และสะเก็ดประทัดยักษ์ตามร่างกาย โดยอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

รอง ผยช.น.ยังขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่พบเห็นบุคคลต้องสงสัย ที่ตำรวจมีหลักฐานเป็นภาพขณะที่เขาพยายามขว้างวัตถุคล้ายระเบิด หรือ ประทัดยักษ์ เข้าใส่ในพื้นที่ชุมนุมเมื่อวานนี้หลายครั้ง โดยผู้ที่พบเห็นสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ และสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม

Next Post

"กองทัพเมียนมา" ยกระดับการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง

อาทิตย์ มี.ค. 21 , 2021
คนไทยในนครย่างกุ้ง เปิดเผยว่า ประชาชนจำนวนมากในนครย่างกุ้งเริ่มอพยพกลับภูมิลำเนา หลังจากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ นับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา สูงกว่า 240 คน วันนี้ (21 มี.ค.2564) ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพที […]