หากเป็นไปตามแผนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 1 เมษายนนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ จะเข้าไทยได้อย่างมีเงื่อนไข รวมถึงแนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกกว่า 70 ประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มมีความหวัง กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ชายหาดป่าตองจังหวัดภูเก็ต เงียบเหงา มากว่า 1 ปีแล้วยังไม่มีสัญญาณบวกใดๆว่าการท่องจะเริ่มฟื้นตัวได้ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเล่าว่า ทำอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ที่ปากซอยบางลา ริมหาดป่าตองมานานหลายสิบปี รายได้ขณะนี้อยู่ที่วันละ 100-150 บาท การเริ่มฉีดวัคซีนและการเปิดประเทศได้ในเดือนเมษายนนี้ทำให้มีความหวังอีกครั้งว่ารายได้เพิ่มขึ้น
การระบาดของโควิด-19 รอบที่ 2 ทำให้เศรษฐกิจของภูเก็ตมีภาวะยากลำบากกว่าการระบาดในรอบแรกอย่างมาก
เมื่อพิจารณาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในจังหวัดต่อประชากร อันเป็นผลมาจากรายได้จากการท่องเที่ยวจะมีมูลค่าเพียง 1,325-1,963 บาทต่อเดือน ต่ำกว่าเส้นความยากจนซึ่งมีมูลค่า 3,068 บาทต่อเดือน ลดลงอย่างเฉียบพลันจากผลกระทบโควิด-19
รายได้ที่หายไปทำให้ต้องหารายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทน เช่น ชาวบ้านในตำบลกะตะ รวมกลุ่มผลิตผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ
สมาชิกบอกว่า ทำธุรกิจบ้านเช่า แต่เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวแรงงานภาคบริการที่มาเช่าบ้านก็ไม่มี การหาอาชีพใหม่เป็นสิ่งจำเป็น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ได้เข้าไปสนับสนุนกลุ่มชาวบ้าน โดยให้ความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และหาตลาดให้เพื่อให้มีรายได้ระหว่างที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว
ปี 2562 ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 4 แสน 4 หมื่น ล้านบาท แต่ล่าสุดจังหวัดภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวเฉลี่ย
เพียงเดือนละ 1,299 ลดลงร้อยละ 96
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า รัฐบาลไทยจะมีการผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีน 2 โดสแล้ว สามารถเข้ามาพักในโรงแรมที่เป็นแอเรีย ควอรันทีน โดยอยู่ในบริเวณโรงแรม 7 วัน และสามารถเดินทางไปเที่ยวต่อ
ในจังหวัดอื่นๆ ได้ โดยเริ่มนําร่องใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และชลบุรี
และวันที่ 19 มีนาคมนี้ จะเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาประเทศที่อยู่ในความเสี่ยงกลางเพิ่มเติมเข้าประเทศได้ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของไทย รวมทั้งผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ พนักงานโรงแรมและ
บริการท่องเที่ยวใน 4 จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ จํานวน 50,000 โดส เชื่อว่าจะทำให้การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวได้
