อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Boris Johnson เตือนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้ยกเลิกการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อยูเครน หากเขากลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
“ชัยชนะของปูตินจะเป็นภัยพิบัติสําหรับตะวันตกและภาวะผู้นําของอเมริกา และผมไม่เชื่อว่ามันเป็นผลลัพธ์ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดจะทนได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นคือผู้ที่ต้องการ ทําให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” จอห์นสันเขียนในนิตยสารสเปกเตเตอร์ บันทึกการเยือนทหารยูเครนที่ได้รับบาดเจ็บในประเทศที่สงครามกําลังดําเนินอยู่
จอห์นสันคาดการณ์ว่าประชาชนยูเครน “กําลังต่อสู้สงครามเอกราช” และจะไม่พิจารณาทําข้อตกลงสันติภาพกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน โดยเฉพาะหลังจากรายงานการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกของหัวหน้าทหารรับจ้างวากเนอร์ เยฟเกนี ปรีโกชิน ซึ่งกองกําลังของเขาพยายามรัฐประหารครัมลินเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา
“เยฟเกนี ปรีโกชิน คิดว่าเขาทําข้อตกลงกับปูตินแล้ว – แต่มันไม่ได้ผลอย่างที่เขาคาดไว้” จอห์นสันเขียน
“มีสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการจากเรา และนั่นคืออาวุธเพื่อจบงาน – และดังนั้นผมจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดเราถึงลากเท้าไปเรื่อยๆ ทําไมเราถึงช้าอยู่เสมอ อย่างไรเราจะมองพวกเขาในดวงตา และอธิบายความล่าช้า ตลอดสงครามนี้เราดูถูกยูเครนและประเมินปูตินสูงเกินไป และเรากําลังทําเช่นนั้นอีกวันนี้” อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าว
จอห์นสันกล่าวว่าประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ บอกเขาว่ากองกําลังของเคียฟต้องการ “ระบบขีปนาวุธบัลลิสติกขั้นสูงอีก 200 ระบบ เช่น ATACMs และสหรัฐฯ มีพันระบบเก็บไว้”
“ทําไมถึงเก็บไว้? วัตถุประสงค์อื่นใดที่สามารถรับประกันความมั่นคงระยะยาวของตะวันตก รวมทั้งสหรัฐอเมริกาได้ดีกว่านี้” จอห์นสันเขียน
“บางเสียงในวอชิงตันกล่าวว่าสหรัฐฯ ควรดําเนินกลยุทธ์ ‘จีนก่อน’ และเก็บ ATACMs ไว้เผื่อว่าต้อง ส่งไปปกป้องไต้หวัน สิ่งเหล่านี้ไร้สาระ” จอห์นสันกล่าว “วิธีที่ดีที่สุดในการยับยั้งการโจมตีไต้หวันคือทําให้ยูเครนชนะ และให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”