ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เจค ซัลลิแวน พบกับนักการทูตจีนระดับสูงในมอลตาในความพยายามของสหรัฐอเมริกาในการทําให้ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับปักกิ่งเย็นลง
ซัลลิแวนพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ ในมอลตาเมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา สํานักงานของซัลลิแวนระบุว่าการพบปะนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการรักษาสายการสื่อสารเปิด
ทั้งสองฝ่าย – ซึ่งได้พบกันก่อนหน้านี้ในปีนี้ที่เวียนนา – กล่าวว่าได้มีการอภิปรายที่ “ตรงไปตรงมา มีเนื้อหา และสร้างสรรค์” ซึ่งสร้างบนพื้นฐานของการสนทนาระหว่างประธานาธิบดีไบเดนกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการประชุมสุดยอดกลุ่ม 20 ในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ซัลลิแวนและหวังหารือเกี่ยวกับประเด็นสําคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ-จีน ประเด็นด้านความมั่นคงระดับโลกและระดับภูมิภาค สงครามของรัสเซียต่อยูเครน และช่องแคบไต้หวัน รวมถึงประเด็นอื่นๆ
มีสัญญาณเริ่มแรกที่จํากัดว่าการสื่อสารทางทหารที่ตัดขาดกันระหว่างสองฝ่ายอาจเริ่มฟื้นฟู ตามที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลไบเดนกล่าว
เจ้าหน้าที่จีนไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับโอกาสในการสื่อสารทางทหาร ซึ่งถูกตัดขาดหลังจากการเยือนไต้หวันเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2022 ของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ซึ่งทําให้จีนโกรธ
การพบปะของซัลลิแวนกับหวังเป็นลําดับต่อไปในการหารือระดับสูงระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนที่เกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรัฐบาลจีนชั้นสูง รวมถึงการหายไปของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลี่ ซางฝู และความผันผวนในเศรษฐกิจของประเทศที่ทําให้เกิดความกังวลในเมืองหลวงต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกาบอกจีนว่าพร้อมที่จะร่วมมือกันในประเด็นต่อต้านยาเสพติด ปัญญาประดิษฐ์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้จะแสดงความกังวลต่อการสนับสนุนจีนต่อรัสเซียที่ไม่ระบุรายละเอียด และการที่จีนส่งเครื่องบินรบข้ามเส้นกึ่งกลางอ่อนไหวของช่องแคบไต้หวันเมื่อเร็วๆ นี้ ตามที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว
หวังเตือนสหรัฐฯ ว่าประเด็นไต้หวันเป็น “เส้นแดงที่ข้ามไม่ได้เป็นอันดับแรกของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ” ตามที่กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ จีนอ้างว่าเกาะปกครองตนเองนี้เป็นดินแดนของตน
เมื่อเร็วๆ นี้ไบเดนแสดงความผิดหวังที่สีขาดการประชุมสุดยอดกลุ่ม 20 ในอินเดีย แต่กล่าวว่าเขาจะ “ได้พบ” สี โอกาสต่อไปที่ไบเดนน่าจะมีการพูดคุยกับสีคือการประชุมเอเปคในซานฟรานซิสโกในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งที่ปรึกษาสหรัฐฯ หวังว่าจะจัดการประชุมเช่นนั้นมาเป็นเวลาหลายเดือน
